4 เคล็ดลับจากผู้ประกอบการร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จ
ในธุรกิจร้านอาหาร การเปลี่ยนแปลงคือสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ผู้ประกอบการร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จมักปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนวัตถุดิบในเมนู หรือการจัดพื้นที่ร้านใหม่ให้รองรับการเว้นระยะห่างทางสังคม
นี่คือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญร้านอาหาร 4 ท่าน ที่จะช่วยให้ร้านของคุณอยู่รอดได้ทั้งในวันที่ราบรื่นและยามวิกฤต
เคล็ดลับที่ 1: ธุรกิจที่ดี เริ่มจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ
“คุณต้องเริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม” เคอร์ติส ดัฟฟี่ เจ้าของร้านอาหารและเชฟระดับมิชลิน 3 ดาว กล่าวกับนักเรียนของโรงเรียนสอนทำอาหาร Escoffier “วัตถุดิบชั้นเลิศมาจากการสร้างความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับเกษตรกร คนหาเห็ด และผู้ขายปลา การสร้างสัมพันธ์เหล่านี้ช่วยให้คุณได้วัตถุดิบที่ดีขึ้น”
ไม่ว่าคุณจะเปิดร้านอาหารหรูหรือร้านอาหารข้างทาง วัตถุดิบที่มีคุณภาพคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จ ไม่ใช่เพียงเพื่อรสชาติอาหารที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ผู้บริโภคในปัจจุบันใส่ใจมากขึ้นเกี่ยวกับที่มาของอาหาร คุณจึงต้องสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้: เนื้อวัวมาจากไหน? เป็นวัวพันธุ์ท้องถิ่นหรือไม่? ผลไม้ในขนมเป็นของตามฤดูกาลหรือไม่? มะนาวปลอดสารหรือเปล่า? ไก่ที่ใช้ปลอดสารปฏิชีวนะหรือไม่?
การเลือกใช้วัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ที่คุณไว้วางใจในเรื่องคุณภาพและค่านิยม จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้าได้อย่างมั่นคง
นอกจากนี้ การดูแลรักษาวัตถุดิบก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น การอบรมพนักงานเกี่ยวกับวิธีเก็บรักษาที่ถูกต้อง การตรวจสอบอุณหภูมิของตู้แช่ และการใช้เทคโนโลยีในการจัดการสต็อกวัตถุดิบ เพื่อให้สั่งของได้เท่าที่จำเป็น คงความสดใหม่และลดของเสียลง หากคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ การสั่งวัตถุดิบในนาทีสุดท้ายหรือการเปลี่ยนแปลงคำสั่งซื้อก็จะง่ายขึ้นมาก
เคล็ดลับที่ 2: ใส่ใจและพัฒนาทีมงานที่ยอดเยี่ยม
“วิธีเดียวที่บริษัทจะเติบโต อยู่กับแก่นแท้ของตัวเอง และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องได้ คือการดึงดูด จ้าง และรักษาคนเก่งไว้” แดนนี่ เมเยอร์ เจ้าของร้านอาหารและ CEO ของ Union Square Hospitality Group กล่าวในหนังสือ Setting the Table: The Transforming Power of Hospitality in Business “มนุษย์ที่ทำให้ร้านของเรามีชีวิต มีผลต่อความสำเร็จมากกว่าวัตถุดิบ ตกแต่งร้าน ไวน์ หรือแม้แต่ทำเลที่ตั้ง”
จากรายงานของ Deloitte เรื่องประสบการณ์ของลูกค้า พบว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ประสบการณ์ในการรับประทานอาหารโดดเด่น คือพนักงานที่เป็นมิตรและจริงใจ พนักงานของคุณคือทูตที่สะท้อนแบรนด์ของร้าน ยิ่งคุณลงทุนในทีมงานทั้งเวลาและการฝึกอบรมมากเท่าไร พวกเขายิ่งมีศักยภาพในการมอบประสบการณ์ที่คุณต้องการให้ลูกค้าได้รับ
กำหนดกฎที่ชัดเจน จัดคอร์สอบรมอย่างสม่ำเสมอ และใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยให้พนักงานสามารถโฟกัสกับลูกค้าได้เต็มที่ เช่น ระบบ POS แบบพกพา (Mobile Point of Sale) ที่ช่วยให้พนักงานรับออร์เดอร์อย่างเป็นธรรมชาติ ดูข้อมูลเมนูได้ทันที และส่งคำสั่งไปยังครัวได้เลยโดยไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมา พนักงานจะทำงานอย่างผ่อนคลายและมีเวลาสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น
การให้อำนาจแก่พนักงานก็สำคัญเช่นกัน เช่น การอนุญาตให้เสิร์ฟของหวานฟรีหรือมอบส่วนลดเมื่อเกิดข้อผิดพลาด เพื่อพลิกสถานการณ์แย่ ๆ ให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ดีได้
การสร้างวัฒนธรรมการบริการที่ยอดเยี่ยม และส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง จะทำให้คุณมีทีมงานที่มีคุณภาพและภักดีต่อองค์กร แต่สิ่งแรกที่ต้องเริ่ม คือการจ้างคนที่มีหัวใจแห่งการบริการ เพราะความเอาใจใส่ ความมีจริยธรรม และน้ำใจ เป็นคุณสมบัติที่สอนกันไม่ได้ แต่จำเป็นอย่างยิ่งในธุรกิจนี้
เคล็ดลับที่ 3: ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“แน่นอนว่าการลงมือทำงานด้วยตัวเอง พร้อมทั้งติดตามตัวเลขทางธุรกิจนั้นเป็นเรื่องที่เหนื่อยและใช้เวลามาก แต่ถ้าคุณมี ระบบ POS (Point of Sale) ที่ดี ทั้งสองอย่างนี้จะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก” โรเจอร์ ฟิลด์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจร้านอาหารและผู้เขียนหนังสือ Restaurant Success by the Numbers กล่าว “หากใช้อย่างถูกต้อง ระบบ POS ไม่เพียงช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างทันท่วงทีจากข้อมูลที่ถูกต้องและพร้อมใช้งาน แต่ยังช่วยให้คุณมีเวลาไปทำสิ่งสำคัญอื่น ๆ เช่น ดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด บริหารและควบคุมทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขยายธุรกิจของคุณให้เติบโต”
การบริหารร้านอาหารหรือธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มนั้นเป็นงานที่กินเวลามาก การใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วย อัตโนมัติงานซ้ำซ้อน ไม่เพียงช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ แต่ยังช่วยให้คุณมีเวลาไปทุ่มเทกับสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า
ระบบจัดการร้านอาหารสมัยใหม่ที่รวมเอา POS, การจัดการสต็อก, การจัดตารางพนักงาน และการเงินเข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว สามารถทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอย่างมาก พนักงานสามารถรับออเดอร์ ปรับเปลี่ยนคำสั่ง และส่งไปยังครัวได้จากโต๊ะลูกค้าโดยตรงผ่านอุปกรณ์ POS แบบพกพา ในครัวเองก็สามารถใช้ ระบบแสดงคำสั่งอาหาร (KDS) เพื่อแสดงรายการอาหารที่ต้องเตรียมในแต่ละสถานี พร้อมเรียงลำดับตามเวลาที่ต้องใช้ในการปรุง ส่วนงานหลังบ้านสามารถใช้ เครื่องมือ Business Intelligence (BI) ในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อสั่งสินค้าตามความต้องการจริงและลดของเสียให้ได้มากที่สุด
ระบบร้านอาหารที่ทันสมัยจะช่วยให้คุณมีอิสระในการใช้เวลากับลูกค้าได้มากขึ้น พร้อมทั้งให้ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับลูกค้าและธุรกิจ เพื่อให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีกำไร
เคล็ดลับที่ 4: พร้อมปรับตัวเสมอ
หลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดจากโควิด-19 ไม่มีเจ้าของร้านอาหารคนใดสงสัยอีกต่อไปว่า ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับลูกค้า คือหัวใจของการอยู่รอด เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ร้านอาหารก็ต้องปรับเมนูใหม่ เปลี่ยนผังร้าน ปรับวิธีการทำงานในครัว และปรับรูปแบบการให้บริการ เช่น บริการจัดส่งถึงบ้านหรือรับอาหารที่หน้าร้าน
ร้านอาหารที่เคยพึ่งพาลูกค้าประจำอย่างพนักงานออฟฟิศหรือผู้เดินทาง ต้องกลับมาคิดใหม่ทั้งแบรนด์ ขณะที่ร้านอาหารที่เคยโดดเด่นด้วยบรรยากาศหรือประสบการณ์การรับประทานอาหารภายในร้าน ก็ต้องเผชิญกับการสูญเสียจุดขายหลักของตนเอง บริการแบบสั่งกลับบ้านและรับหน้าร้านกลายมาเป็นรูปแบบใหม่ของการรับประทานอาหาร
นี่อาจเป็นโลกใหม่ของธุรกิจร้านอาหาร – แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันก็ไม่ต่างจากเดิมนัก
“ธุรกิจของผมเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเมนู ชุดพนักงาน เพลงที่เปิดในร้าน หรือแม้กระทั่งการจัดวางและบรรยากาศ” ทิลแมน เฟอร์ติตตา เจ้าของร้านอาหารกว่า 600 สาขา กล่าวในหนังสือ Shut Up and Listen!: Hard Business Truths That Will Help You Succeed
“หากคุณไม่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนก่อน คุณก็จะตกอยู่ในสภาพที่ ‘ต้องยอมเปลี่ยน’ ตามสถานการณ์ แทนที่จะเป็นผู้ควบคุมมันเอง”
แม้หนังสือของเขาจะตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2019 ก่อนที่โลกจะรู้จักโควิด-19 แต่ การเปลี่ยนแปลงก็เป็นสิ่งจำเป็นอยู่แล้ว สำหรับใครก็ตามที่ต้องการประสบความสำเร็จในวงการร้านอาหาร
บทสรุป
ข้อความจากผู้ประกอบการร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในอุตสาหกรรมนั้นชัดเจน: ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ยั่งยืนต้องยืนอยู่บนรากฐานของวัตถุดิบคุณภาพสูง การบริการที่เป็นเลิศ และความสามารถในการปรับตัวอย่างต่อเนื่องตามพฤติกรรมของลูกค้า
คุณสามารถใช้ศักยภาพจากทั้งสามองค์ประกอบนี้ได้อย่างเต็มที่ ด้วยการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่แม่นยำและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับธุรกิจของคุณที่สุด ติดต่อเราได้เลย
บทความข้างต้นเขียนโดย LS Retail เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2020
สามารถเข้าถึงต้นฉบับฉบับเต็มได้ที่ลิงก์ต้นทาง: LS Retail – Original Article