Published On: พฤศจิกายน 27th, 2020 / Categories: ไม่มีหมวดหมู่ /

การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น

เคล็ดลับในการสร้างประสบการณ์ร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จในช่วงเวลาท้าทายนี้ คือหัวใจสำคัญของงานสัมมนาออนไลน์ “How to build a successful restaurant experience in Covid times” ซึ่งจัดโดย LS Retail ร่วมกับ Microsoft โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากทั้งสององค์กร รวมถึง Leon DeWet ซึ่งดำรงตำแหน่ง CIO และมีประสบการณ์ยาวนานในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) เข้าร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นสำคัญว่า ร้านอาหารควรเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและความยืดหยุ่นเพื่อรักษาความภักดีของลูกค้าและเติบโตต่อไป ไม่เพียงแค่ในช่วงวิกฤตนี้ แต่รวมถึงอนาคตด้วย

Robbee Minicola ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์พันธมิตรระดับโลก ฝ่ายค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภคของ Microsoft กล่าวไว้ว่า

“ขณะนี้มากกว่าช่วงเวลาใด ความพร้อมด้านดิจิทัลคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จในอุตสาหกรรมนี้ ร้านอาหารที่ดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลไปแล้วจะสามารถบริหารจัดการธุรกิจได้มีประสิทธิภาพมากกว่าร้านที่ยังไม่ได้ทำในช่วงวิกฤตโควิด-19 นี้”

ต่อไปนี้คือ 8 เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญในการสร้างประสบการณ์ร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จ เพื่อช่วยให้คุณปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างมั่นใจ และพร้อมรับมือกับคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งต่อไป

เคล็ดลับที่ 1: ทบทวนและออกแบบทุกขั้นตอนของประสบการณ์ลูกค้าใหม่ทั้งหมด

ในอดีต ความสะดวกและการบริการที่อบอุ่นคือสิ่งจำเป็น แต่ในวันนี้ ความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน ต้องมาก่อน

ตัวอย่างเช่น หลายร้านแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการหุ้มเครื่องชำระเงินด้วยพลาสติกเพื่อให้ทำความสะอาดง่าย แต่สิ่งนี้กลับส่งผลต่อการใช้งานจริง
Minicola ได้ตั้งคำถามว่า

“เครื่องอ่านบัตรแบบไร้สัมผัสทำงานได้แค่ไหนเมื่อต้องหุ้มด้วยพลาสติก? และร้านอาหารยังคงขอให้ลูกค้าแตะหน้าจอเพื่อให้ทิปอยู่ดีใช่หรือไม่?”

การเติบโตของ การชำระเงินแบบไร้สัมผัส, บริการจัดส่งถึงบ้าน, Drive-thru และ Curbside pickup ไม่ใช่เพียงกระแสชั่วคราว ร้านอาหารจำเป็นต้อง ย้อนมองภาพรวมของประสบการณ์ลูกค้า และออกแบบใหม่เพื่อรองรับในระยะยาว

ตัวอย่างแนวทางที่มีประโยชน์ทั้งในวันนี้และอนาคต:

  • เมนูแบบ QR code ที่ลูกค้าสแกนจากมือถือ ช่วยลดการใช้เมนูกระดาษที่ยากต่อการทำความสะอาด และยังช่วยให้ร้านสามารถปรับเปลี่ยนเมนูได้แบบ real-time โดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการพิมพ์

  • ระบบบริหารจัดการโต๊ะและแผนผังที่นั่ง (table management software) ช่วยออกแบบพื้นที่ให้ปลอดภัยตามระยะห่างที่เหมาะสม และบันทึกข้อมูลลูกค้าที่นั่งแต่ละโต๊ะเพื่อใช้ในกรณีสอบสวนโรค ในระยะยาว ระบบนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานพื้นที่ ติดตามสถานะของแต่ละโต๊ะ และบริหารจัดการแขก walk-in ได้อย่างราบรื่น

เคล็ดลับที่ 2: ให้ความสำคัญกับ “ความคล่องตัว” (Mobility)

ความคล่องตัว (Mobility) ควรเป็นจุดเริ่มต้นของทุกโครงการดิจิทัล การนำ ระบบ POS มาใช้กับอุปกรณ์พกพา เช่น แท็บเล็ตหรือสมาร์ตโฟน ช่วยให้พนักงานสามารถรับออร์เดอร์จากลูกค้าที่นั่งนอกอาคาร และรับชำระเงินได้โดยไม่ต้องพาแขกไปต่อแถวที่หน้าเคาน์เตอร์

ผลลัพธ์คือ บริการที่รวดเร็วขึ้น ลดการเดินไม่จำเป็นภายในร้าน และที่สำคัญคือ ลดความเสี่ยงในการสัมผัสระหว่างบุคคล

หาก POS นั้นสามารถเชื่อมต่อสองทางกับระบบแสดงผลในครัว ก็จะได้ประโยชน์เพิ่มเติมอีกมาก
Eric Miller ผู้อำนวยการภูมิภาคจาก LS Retail อธิบายว่า

“เมื่อพนักงานรับออร์เดอร์ที่ POS ข้อมูลจะถูกส่งอัตโนมัติไปยังหน้าจอดิจิทัลในสถานีครัวที่เกี่ยวข้อง พนักงานหน้าร้านไม่จำเป็นต้องเดินไปกลับระหว่างโต๊ะ ครัว และเคาน์เตอร์ ทำให้ลดความเสี่ยงและประหยัดเวลา”

และนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น Mobile POS ที่เชื่อมโยงกับระบบเทคโนโลยีแบบครบวงจร ยังช่วยให้เกิดการสื่อสารที่แม่นยำระหว่างหน้าร้านกับครัว ลดข้อผิดพลาดในการผลิต และช่วยให้โต๊ะหมุนเวียนได้เร็วขึ้น
Michael Mento ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ Surface ของ Microsoft ยังกล่าวถึงความนิยมในการใช้อุปกรณ์แท็บเล็ต Surface ในร้านอาหาร โดยเฉพาะเมื่อมีอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานในสภาพแวดล้อมของร้านอาหารโดยเฉพาะ

Using Surface Tablets as Mobile POS on the restaurant floor

ภาพจาก LS Retail (สืบค้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020)

เคล็ดลับที่ 3: สร้างประสบการณ์ลูกค้าบนแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง

ลูกค้าในปัจจุบันคาดหวังประสบการณ์ที่สม่ำเสมอในทุกช่องทาง และการจะตอบสนองความคาดหวังนั้นได้ จำเป็นต้องใช้แนวทางที่บูรณาการด้วยเทคโนโลยีเดียวกันทั้งระบบ

โซลูชันซอฟต์แวร์แบบรวมศูนย์ (Unified Software Solutions) กำลังเข้ามาแทนที่ระบบ IT แบบแยกส่วนเดิมๆ ด้วยข้อดีที่ชัดเจน ดังนี้:

  • ผู้บริหารสามารถมองเห็นภาพรวมของธุรกิจได้อย่างครอบคลุม (360 องศา) โดยเข้าถึงข้อมูลทั้งทางธุรกิจและข้อมูลลูกค้าได้จากจุดเดียว

  • การตัดสินใจทำได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากสามารถดึงรายงาน บัญชี และสถิติที่จำเป็นได้ทันที

  • ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและดูแลระบบลดลง เพราะไม่ต้องรวมระบบแยกหลายตัวเข้าด้วยกัน หรือต้องดูแลการเชื่อมโยงระหว่างระบบเหล่านั้น

  • การกระจายข้อมูลภายในองค์กร เช่น เมนูประจำวัน สูตรอาหาร ราคา และข้อมูลโภชนาการ ทำได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ส่งผลให้ทุกคนในองค์กรสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

หากคุณนำระบบซอฟต์แวร์แบบรวมศูนย์นี้ขึ้นไปใช้งานบน ระบบคลาวด์ จะยิ่งสามารถปรับตัวได้รวดเร็วเมื่อมีโอกาสหรือเหตุการณ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น
Eric Miller กล่าวว่า

“ในช่วงที่โควิดเริ่มระบาด ร้านอาหารที่ใช้ระบบคลาวด์ และไม่ต้องพึ่งโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม มีความสามารถในการเสริมเทคโนโลยีใหม่ ๆ และปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจได้รวดเร็วกว่ามาก ร้านจำนวนไม่น้อยสามารถอยู่รอดได้ด้วยการเพิ่มระบบบริการรับของหน้าร้าน จัดส่ง และ curbside pickup ซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญระหว่างความอยู่รอดหรือปิดกิจการ”

Leon DeWet อดีต CIO จาก Cracker Barrel และ O’Charley’s เสริมว่า ธุรกิจควรให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์

“ถ้าซอฟต์แวร์ดีแต่ฮาร์ดแวร์ไม่ตอบสนอง หรือในทางกลับกัน โครงการนั้นก็ล้มเหลวได้”
เขาแนะนำให้เลือกโซลูชันที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์
Michael Mento จากทีม Surface ของ Microsoft ก็เห็นด้วยกับมุมมองดังกล่าว

เคล็ดลับที่ 4: ติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง

จากการที่ผู้คนต้องทำงานจากบ้าน และอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ร้านอาหารจำนวนมากจึงพบกับความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล — ลูกค้าประจำหายไป, ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น, พฤติกรรมและช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้าร้านเปลี่ยนแปลง และมีความต้องการใหม่ ๆ เกิดขึ้น

ธุรกิจต้องจับตาความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
Minicola กล่าวไว้ว่า

“คุณต้องเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ มิฉะนั้นคุณจะไม่สามารถสร้างกลยุทธ์เพื่อรักษาความภักดีของลูกค้าในวันนี้และอนาคตได้”
“คุณไม่สามารถสร้างหรือรักษาความภักดีของลูกค้าได้เลย หากไม่มีข้อมูลรองรับ”

การเข้าถึงข้อมูลที่ ถูกต้องและทันเวลา คือสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการในเชิงรุก คุณต้องมองเห็นภาพรวมของสถานการณ์ชัดเจน จึงจะสามารถป้องกันปัญหาและลดความสูญเสียได้
Eric Miller กล่าวเพิ่มเติมว่า

“ในช่วงการระบาด หลายร้านมีปัญหาเรื่องวัตถุดิบบางชนิดขาดตลาด ด้วยซอฟต์แวร์ของเรา คุณสามารถวิเคราะห์ต้นทุนแบบคาดการณ์ล่วงหน้า และทดลองเปลี่ยนราคา เมนู หรือสูตรอาหารได้ เพื่อหาจุดที่เหมาะสมที่สุดทั้งในเชิงรสชาติและต้นทุน”

การมองเห็นข้อมูลสินค้าคงคลังจากหลายสาขาในระบบเดียว ยังช่วยให้คุณบริหารจัดการวัตถุดิบได้ดีขึ้น เช่น ย้ายสินค้าคงเหลือจากสาขาในห้างที่คนเดินน้อย ไปยังสาขาที่มียอดขายดีต่อเนื่องได้อย่างทันท่วงที

Building Successful Restaurant Experience

เคล็ดลับที่ 5: ปรับเปลี่ยนตัวชี้วัดความสำเร็จของธุรกิจ

โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว และนิยามของ “ความสำเร็จ” ก็ต้องปรับเปลี่ยนตาม
Leon DeWet เตือนว่า ร้านอาหารจำนวนมากยังคงยึดติดกับตัวชี้วัดแบบเดิม ๆ (เช่น ความเร็วในการหมุนเวียนโต๊ะ)

“การหมุนเวียนโต๊ะจะมีความสำคัญก็ต่อเมื่อคุณมีลูกค้าเข้ามาเติมโต๊ะนั้น แต่หากไม่มีลูกค้าเลย ตัวชี้วัดนี้ก็ไร้ประโยชน์ อย่ายึดติดกับตัวเลข KPI เดิม ๆ ที่เคยใช้ในอดีต ให้พิจารณาสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในธุรกิจของคุณในตอนนี้ก่อน แล้วจึงตัดสินใจว่าควรโฟกัสกับตัวชี้วัดใด”

ตัวชี้วัดต้องเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และควรเตรียมพร้อมที่จะปรับแต่งใหม่อย่างต่อเนื่อง
Minicola กล่าวเสริมว่า

“พฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบัน ไม่สามารถใช้เป็นดัชนีชี้วัดถึงพฤติกรรมของพวกเขาในอนาคตได้”

เคล็ดลับที่ 6: ใช้เครื่องมืออัจฉริยะในการคาดการณ์อนาคต

DeWet ซึ่งเป็นผู้ที่เชื่อมั่นในพลังของการวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะ (Intelligent Analytics) กล่าวว่า ธุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่มักใช้ศักยภาพด้านการวิเคราะห์ข้อมูลได้ไม่เต็มที่

“หลายองค์กรยังคงใช้การวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงรับ (Reactive) โดยอิงจากข้อมูลในอดีตเพื่อเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ความจริงแล้วคุณค่าที่แท้จริงอยู่ที่ การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (Predictive Analytics)

การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์สามารถรวบรวมข้อมูลจำนวนมากที่กระจัดกระจาย และค้นหาความสัมพันธ์แฝง เพื่อคาดการณ์แนวโน้มล่วงหน้า เช่น หากเห็นว่า “ระยะทางเฉลี่ยที่ลูกค้าขับรถลดลง” ระบบสามารถวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลัง และใช้ AI ระบุผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์ลักษณะเดียวกันในอดีต เพื่อช่วยให้ธุรกิจเตรียมพร้อมรับมือได้ทันท่วงที

DeWet ยังแนะนำให้ใช้ แพลตฟอร์ม Business Intelligence ที่สามารถรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร

“เมื่อคุณสามารถรวมข้อมูลภายในร้านกับข้อมูลภายนอกเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมได้ คุณจะมองเห็นภาพพฤติกรรมของลูกค้าได้ชัดเจนขึ้น และบางครั้ง การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในกระบวนการของคุณ อาจสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้”

เคล็ดลับที่ 7: อย่าลืม “มนุษย์” คือหัวใจสำคัญ

แม้ว่าการเว้นระยะห่างทางสังคมจะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การรับประทานอาหารในร้านโดยสิ้นเชิง
แต่ลูกค้ายังคงคาดหวัง ประสบการณ์ที่อบอุ่น เป็นมิตร และมีความเป็นส่วนตัว จากร้านอาหารที่พวกเขาเลือก

การให้พนักงานมีอิสระในการสร้างบรรยากาศที่ดี (Employee Empowerment) ยังคงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความภักดีจากลูกค้า
Minicola กล่าวว่า

“ทุกคนต้องการความภักดีจากลูกค้า – แต่ทั้งหมดเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ส่วนตัว หากคุณอยากเชื่อมโยงกับฉัน คุณต้องพูดคุยกับฉัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเก็บข้อมูล ทำความรู้จักกับฉัน และส่งข้อเสนอที่ตรงใจให้ฉันกลับมาใช้บริการอีกครั้ง”

การคัดเลือกพนักงานที่เหมาะสม และดูแลพวกเขาอย่างดี คือปัจจัยสำคัญ

“ถ้าพนักงานของคุณได้รับการดูแลอย่างดี ลูกค้าของคุณก็จะได้รับการดูแลอย่างดีเช่นกัน” – Minicola

Restaurant in times of crisis

เคล็ดลับที่ 8: คิดระยะยาว

การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยการวางแผนระยะยาว
Minicola ตั้งคำถามที่น่าคิดว่า

“ใครจะคาดคิดได้เมื่อปีก่อนว่า การส่งอาหารถึงขอบฟุตบาท (Curbside Delivery) จะกลายเป็นเรื่องปกติในร้านอาหาร เหมือนที่ Walmart ทำ?”

Leon DeWet แนะนำผู้บริหารด้านเทคโนโลยีในธุรกิจร้านอาหารว่า

“เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดให้ได้ ต้องมองว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยี ก็ไม่ต่างอะไรจากการลงทุนในระบบปรับอากาศหรือชุดอุปกรณ์ทอดใหม่ล่าสุด เพราะทั้งหมดคือ ‘โครงสร้างพื้นฐาน’ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจในระยะยาว
คุณไม่สามารถรอจนเกิดความต้องการก่อนแล้วค่อยลงทุน — คุณต้องเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า”

การสร้างประสบการณ์ร้านอาหารในภาวะวิกฤต และอนาคตที่ไม่แน่นอน

หลังยุคโควิด-19 ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “กลับไปเป็นปกติ” อีกต่อไป
ความต้องการของผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจร้านอาหารต้องพร้อมที่จะปรับตัวอยู่เสมอ

DeWet กล่าวทิ้งท้ายว่า

“การเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตมีคุณค่าเสมอ แม้เทคโนโลยีบางอย่างในวันนี้อาจยังไม่สร้างผลตอบแทนชัดเจน
แต่หากมันช่วยให้คุณสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ทัน นั่นคือการลงทุนที่คุ้มค่าแล้ว”

การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในยุคนี้ — แต่ร้านอาหารไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

Minicola กล่าวว่า

“ไม่มีใครคาดหวังให้คุณเข้าใจทุกเรื่องด้วยตัวเอง — นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณจึงต้องมีพันธมิตร”

หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการเริ่มต้นเส้นทางสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของธุรกิจร้านอาหาร
อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา ทีมงานพร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนคุณในทุกขั้นตอน.

บทความข้างต้นเขียนโดย LS Retail เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2020
คุณสามารถเข้าถึงบทความต้นฉบับได้ ที่นี่

Subscribe To Our Monthly Newsletter

For our latest ERP news, trends, updates and more!

By submitting, you agree to our T&Cs.