Published On: ธันวาคม 18th, 2020 / Categories: ไม่มีหมวดหมู่ /

ช้อปปิ้งช่วงวันหยุดกำลังย้ายไปออนไลน์ ร้านค้าต้องพร้อมรับมือ

เมื่อเทรนด์การช้อปปิ้งช่วงวันหยุดกำลังเปลี่ยนโฉมจากหน้าร้านสู่โลกออนไลน์อย่างชัดเจน ร้านค้าปลีกต่างเร่งเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับยอดขายที่จะพุ่งขึ้นแบบฉับพลันในช่วงเวลาสำคัญของปีนี้ ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง Deloitte และ Forrester สะท้อนเทรนด์เดียวกันคือ ลูกค้าจะเดินห้างน้อยลง แต่จะใช้เวลาในการเลือกซื้อและชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

จากรายงานของ PYMNTS ซึ่งติดตามพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค ระบุว่า เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีเพียง 12% ของผู้บริโภคที่วางแผนจะเปลี่ยนพฤติกรรมการช้อปจากหน้าร้านไปสู่ออนไลน์ แต่ปัจจุบัน ตัวเลขนี้พุ่งขึ้นถึง 42% แล้ว

Deloitte ยังเผยว่า ความต้องการบริการออนไลน์และแบบไร้สัมผัส (contactless) เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยผู้บริโภคเกือบ 2 ใน 3 (72%) มีแนวโน้มจะใช้จ่ายงบประมาณสำหรับของขวัญวันหยุดผ่านช่องทางออนไลน์ มากกว่าการซื้อสินค้าที่หน้าร้านซึ่งเหลือเพียง 28% เท่านั้น และการใช้บริการรับสินค้าที่จุดนัดหมาย (curbside pickup) ก็เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา

“เทศกาลช้อปปิ้งปีนี้จะไม่เหมือนปีไหน ๆ ที่เราเคยเจอมาก่อน”
— Chip Bergh, CEO ของ Levi Strauss & Co.

4 แนวโน้มสำคัญสำหรับฤดูกาลช้อปปิ้งออนไลน์ พร้อมคำแนะนำในการรับมือ

1. ยกระดับความสามารถด้านดิจิทัล

Deloitte คาดว่าการขายสินค้าออนไลน์ช่วงเทศกาลปีนี้จะเติบโตขึ้น 25%–35% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 182–196 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐเพียงประเทศเดียว

แนวทางรับมือ:

  • ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบผสมผสาน เช่น อีเมลแคมเปญ การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ โซเชียลมีเดีย โปรโมชั่นแบบแฟลช และข้อเสนอเฉพาะบุคคล

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์รองรับการใช้งานในช่วงที่มีทราฟฟิกสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • พิจารณาเพิ่มเทคโนโลยี AR/VR เช่น ระบบลองสินค้าเสมือน การดูสินค้าแบบ 3 มิติ หรือทดลองวางสินค้าจำลองในสภาพแวดล้อมจริง เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

2. เปิดโปรโมชั่นเร็วขึ้นเพื่อรับมือการช้อปที่มาก่อนเวลา

จากผลสำรวจของ Coresight Research ผู้บริโภคหนึ่งในสามวางแผนจะเริ่มช้อปปิ้งของขวัญเร็วกว่าปกติ ขณะที่แบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Target และ Walmart ก็เริ่มจัดโปรโมชันตั้งแต่ก่อน Amazon Prime Day ในเดือนตุลาคม

แนวทางรับมือ:

  • จัดโปรโมชันพิเศษล่วงหน้า เช่น ส่วนลดค่าจัดส่ง

  • สร้างหน้าเว็บไซต์ที่สร้างบรรยากาศเทศกาล

  • ส่งข้อเสนอเฉพาะบุคคลผ่านอีเมลหรือโซเชียลมีเดีย

  • แนะนำสินค้าเฉพาะบุคคลตามประวัติการสั่งซื้อเดิม

3. เน้น “ของขวัญขนาดเล็ก” มากกว่าประสบการณ์

ของขวัญประเภท “ประสบการณ์” เช่น ทริปสปา ตั๋วคอนเสิร์ต หรือกิจกรรมกลางแจ้ง เริ่มเสื่อมความนิยมลง ผู้บริโภค 7 ใน 10 คนกลับไปเลือกซื้อสินค้าจับต้องได้ โดยเฉพาะสินค้าสำหรับใช้ในบ้าน เช่น อุปกรณ์ออกกำลังกาย ของแต่งบ้าน เสื้อผ้าแนวอยู่บ้าน และผลิตภัณฑ์ความงาม

นอกจากนี้ การที่หลายครอบครัวไม่สามารถพบปะกันแบบเดิม ก็ส่งผลต่อพฤติกรรมการให้ของขวัญ

“ปีนี้ผู้คนอาจไม่ได้ซื้อของขวัญชิ้นใหญ่ไปวางใต้ต้นคริสต์มาส แต่จะเลือกซื้อของเล็ก ๆ ที่ส่งทางไปรษณีย์ได้สะดวก”
— Michael Brown, Kearney

4. ออกแบบประสบการณ์ช้อปแบบ “ไร้สัมผัส”

ข้อมูลจาก Ipsos Retail Tracking เผยว่า 53% ของนักช้อปช่วงวันหยุด จะเลือกร้านที่ให้บริการแบบไร้สัมผัสเป็นหลัก ดังนั้น ร้านค้าออฟไลน์ต้องปรับประสบการณ์หน้าร้านใหม่ และใช้เครื่องมือดิจิทัลให้มากกว่าที่เคย

ตัวอย่างไอเดียที่ควรพิจารณา

  • จัดคิวแบบออนไลน์ ลดความแออัดหน้าร้าน

  • จ่ายเงินผ่านมือถือแบบไม่ต้องสัมผัส

  • คลิกและรับของ (click & collect) แบบ drive-thru

  • ใช้ป้ายดิจิทัล หรือ QR code แสดงข้อมูลสินค้าแทนแคตตาล็อกกระดาษ

สรุป

ฤดูกาลนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ร้านค้าต้องพร้อมรับมือความไม่แน่นอน ด้วยการยืดหยุ่นและใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ ผู้ที่สามารถปรับตัวได้ไว จะเป็นผู้ที่คว้าโอกาสใหญ่ในช่วงปลายปีนี้ได้ก่อนใคร

แนวทางสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้สัมผัสในร้านค้า

  • เพิ่มตัวเลือกการชำระเงินแบบไร้สัมผัส
    ระบบจ่ายเงินแบบแตะบัตร (Tap and Go) และกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay หรือ Alipay กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น คุณสามารถอัปเกรดระบบ POS ของร้านให้รองรับการชำระเงินรูปแบบเหล่านี้ได้ไม่ยาก

  • ติดตั้งเครื่องชำระเงินด้วยตนเอง (Self-checkout)
    ช่วยให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินเองได้แบบไม่ต้องสัมผัสพนักงาน และยังช่วยลดความแออัดของคิวหน้าร้านอีกด้วย

  • จัดส่งแบบไร้สัมผัสถึงบ้าน ไม่จำกัดแค่การสั่งออนไลน์
    หากร้านของคุณมีระบบจัดส่งอยู่แล้ว ลองขยายบริการนี้ให้กับลูกค้าที่มาซื้อของที่หน้าร้านแต่ไม่สะดวกถือของกลับบ้านเอง การมีตัวเลือกจัดส่งถึงบ้านอาจกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อของจำนวนมากขึ้น

  • ซื้อออนไลน์ รับสินค้าที่ร้าน (BOPIS)
    บริการ “Click & Collect” หรือ “Curbside Pickup” ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงโควิด-19 ลูกค้าสามารถสั่งของออนไลน์แล้วเลือกรับที่ร้าน หรือรอในรถให้พนักงานนำสินค้ามาส่งให้ที่รถ ไม่ว่าจะเลือกรูปแบบใด สิ่งสำคัญคือความรวดเร็ว ความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการรับสินค้า

  • กำหนดช่วงเวลาช้อปปิ้งพิเศษ
    เพื่อลดความแออัดภายในร้าน อาจเปิดให้บริการในช่วงเวลาพิเศษหรือขยายเวลาให้ลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ อาจกำหนดช่วงเวลาเฉพาะสำหรับกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัว ให้สามารถเข้ามาช้อปได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น

เตรียมพร้อมสู่อนาคต

เทศกาลช้อปปิ้งช่วงปลายปีนี้จะไม่เหมือนกับที่เคยผ่านมา และอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กำหนดทิศทางของฤดูกาลต่อ ๆ ไป การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้บริโภคที่หันมาใช้ช่องทางออนไลน์และการซื้อแบบไร้สัมผัสในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว – แต่เป็นก้าวย่างของอนาคตที่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่

“มันเป็นฤดูกาลที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง และผมคิดว่าเราทุกคนจะได้เรียนรู้ร่วมกันในระหว่างที่ผ่านมันไป”
— มาร์ก ทริตตัน, CEO บริษัท Bed Bath & Beyond

ข่าวดีคือ ผู้ค้าปลีกได้พิสูจน์แล้วว่า เมื่อสถานการณ์วิกฤต พวกเขาสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือ การทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหลายปีในการวิเคราะห์หรือคิดมากเกินไป – สิ่งสำคัญคือคุณต้อง ก้าวข้ามความกลัวการเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมธุรกิจให้พร้อมรับมือกับอนาคต และคว้าโอกาสที่มาถึงให้ได้ทันเวลา

หากคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือด้านการปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ
ติดต่อเราได้เลย

บทความข้างต้นเขียนโดย LS Retail เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2020
สามารถอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษได้จาก ที่นี่

Subscribe To Our Monthly Newsletter

For our latest ERP news, trends, updates and more!

By submitting, you agree to our T&Cs.