ช้อปปิ้งช่วงวันหยุดกำลังย้ายไปออนไลน์ ร้านค้าต้องพร้อมรับมือ
เมื่อเทรนด์การช้อปปิ้งช่วงวันหยุดกำลังเปลี่ยนโฉมจากหน้าร้านสู่โลกออนไลน์อย่างชัดเจน ร้านค้าปลีกต่างเร่งเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับยอดขายที่จะพุ่งขึ้นแบบฉับพลันในช่วงเวลาสำคัญของปีนี้ ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง Deloitte และ Forrester สะท้อนเทรนด์เดียวกันคือ ลูกค้าจะเดินห้างน้อยลง แต่จะใช้เวลาในการเลือกซื้อและชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
จากรายงานของ PYMNTS ซึ่งติดตามพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค ระบุว่า เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีเพียง 12% ของผู้บริโภคที่วางแผนจะเปลี่ยนพฤติกรรมการช้อปจากหน้าร้านไปสู่ออนไลน์ แต่ปัจจุบัน ตัวเลขนี้พุ่งขึ้นถึง 42% แล้ว
Deloitte ยังเผยว่า ความต้องการบริการออนไลน์และแบบไร้สัมผัส (contactless) เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยผู้บริโภคเกือบ 2 ใน 3 (72%) มีแนวโน้มจะใช้จ่ายงบประมาณสำหรับของขวัญวันหยุดผ่านช่องทางออนไลน์ มากกว่าการซื้อสินค้าที่หน้าร้านซึ่งเหลือเพียง 28% เท่านั้น และการใช้บริการรับสินค้าที่จุดนัดหมาย (curbside pickup) ก็เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา
“เทศกาลช้อปปิ้งปีนี้จะไม่เหมือนปีไหน ๆ ที่เราเคยเจอมาก่อน”
— Chip Bergh, CEO ของ Levi Strauss & Co.
4 แนวโน้มสำคัญสำหรับฤดูกาลช้อปปิ้งออนไลน์ พร้อมคำแนะนำในการรับมือ
1. ยกระดับความสามารถด้านดิจิทัล
Deloitte คาดว่าการขายสินค้าออนไลน์ช่วงเทศกาลปีนี้จะเติบโตขึ้น 25%–35% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 182–196 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐเพียงประเทศเดียว
แนวทางรับมือ:
-
ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบผสมผสาน เช่น อีเมลแคมเปญ การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ โซเชียลมีเดีย โปรโมชั่นแบบแฟลช และข้อเสนอเฉพาะบุคคล
-
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์รองรับการใช้งานในช่วงที่มีทราฟฟิกสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
พิจารณาเพิ่มเทคโนโลยี AR/VR เช่น ระบบลองสินค้าเสมือน การดูสินค้าแบบ 3 มิติ หรือทดลองวางสินค้าจำลองในสภาพแวดล้อมจริง เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
2. เปิดโปรโมชั่นเร็วขึ้นเพื่อรับมือการช้อปที่มาก่อนเวลา
จากผลสำรวจของ Coresight Research ผู้บริโภคหนึ่งในสามวางแผนจะเริ่มช้อปปิ้งของขวัญเร็วกว่าปกติ ขณะที่แบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Target และ Walmart ก็เริ่มจัดโปรโมชันตั้งแต่ก่อน Amazon Prime Day ในเดือนตุลาคม
แนวทางรับมือ:
-
จัดโปรโมชันพิเศษล่วงหน้า เช่น ส่วนลดค่าจัดส่ง
-
สร้างหน้าเว็บไซต์ที่สร้างบรรยากาศเทศกาล
-
ส่งข้อเสนอเฉพาะบุคคลผ่านอีเมลหรือโซเชียลมีเดีย
-
แนะนำสินค้าเฉพาะบุคคลตามประวัติการสั่งซื้อเดิม
3. เน้น “ของขวัญขนาดเล็ก” มากกว่าประสบการณ์
ของขวัญประเภท “ประสบการณ์” เช่น ทริปสปา ตั๋วคอนเสิร์ต หรือกิจกรรมกลางแจ้ง เริ่มเสื่อมความนิยมลง ผู้บริโภค 7 ใน 10 คนกลับไปเลือกซื้อสินค้าจับต้องได้ โดยเฉพาะสินค้าสำหรับใช้ในบ้าน เช่น อุปกรณ์ออกกำลังกาย ของแต่งบ้าน เสื้อผ้าแนวอยู่บ้าน และผลิตภัณฑ์ความงาม
นอกจากนี้ การที่หลายครอบครัวไม่สามารถพบปะกันแบบเดิม ก็ส่งผลต่อพฤติกรรมการให้ของขวัญ
“ปีนี้ผู้คนอาจไม่ได้ซื้อของขวัญชิ้นใหญ่ไปวางใต้ต้นคริสต์มาส แต่จะเลือกซื้อของเล็ก ๆ ที่ส่งทางไปรษณีย์ได้สะดวก”
— Michael Brown, Kearney
4. ออกแบบประสบการณ์ช้อปแบบ “ไร้สัมผัส”
ข้อมูลจาก Ipsos Retail Tracking เผยว่า 53% ของนักช้อปช่วงวันหยุด จะเลือกร้านที่ให้บริการแบบไร้สัมผัสเป็นหลัก ดังนั้น ร้านค้าออฟไลน์ต้องปรับประสบการณ์หน้าร้านใหม่ และใช้เครื่องมือดิจิทัลให้มากกว่าที่เคย
ตัวอย่างไอเดียที่ควรพิจารณา
-
จัดคิวแบบออนไลน์ ลดความแออัดหน้าร้าน
-
จ่ายเงินผ่านมือถือแบบไม่ต้องสัมผัส
-
คลิกและรับของ (click & collect) แบบ drive-thru
-
ใช้ป้ายดิจิทัล หรือ QR code แสดงข้อมูลสินค้าแทนแคตตาล็อกกระดาษ
สรุป
ฤดูกาลนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ร้านค้าต้องพร้อมรับมือความไม่แน่นอน ด้วยการยืดหยุ่นและใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ ผู้ที่สามารถปรับตัวได้ไว จะเป็นผู้ที่คว้าโอกาสใหญ่ในช่วงปลายปีนี้ได้ก่อนใคร
แนวทางสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้สัมผัสในร้านค้า
-
เพิ่มตัวเลือกการชำระเงินแบบไร้สัมผัส
ระบบจ่ายเงินแบบแตะบัตร (Tap and Go) และกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay หรือ Alipay กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น คุณสามารถอัปเกรดระบบ POS ของร้านให้รองรับการชำระเงินรูปแบบเหล่านี้ได้ไม่ยาก -
ติดตั้งเครื่องชำระเงินด้วยตนเอง (Self-checkout)
ช่วยให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินเองได้แบบไม่ต้องสัมผัสพนักงาน และยังช่วยลดความแออัดของคิวหน้าร้านอีกด้วย -
จัดส่งแบบไร้สัมผัสถึงบ้าน ไม่จำกัดแค่การสั่งออนไลน์
หากร้านของคุณมีระบบจัดส่งอยู่แล้ว ลองขยายบริการนี้ให้กับลูกค้าที่มาซื้อของที่หน้าร้านแต่ไม่สะดวกถือของกลับบ้านเอง การมีตัวเลือกจัดส่งถึงบ้านอาจกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อของจำนวนมากขึ้น -
ซื้อออนไลน์ รับสินค้าที่ร้าน (BOPIS)
บริการ “Click & Collect” หรือ “Curbside Pickup” ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงโควิด-19 ลูกค้าสามารถสั่งของออนไลน์แล้วเลือกรับที่ร้าน หรือรอในรถให้พนักงานนำสินค้ามาส่งให้ที่รถ ไม่ว่าจะเลือกรูปแบบใด สิ่งสำคัญคือความรวดเร็ว ความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการรับสินค้า -
กำหนดช่วงเวลาช้อปปิ้งพิเศษ
เพื่อลดความแออัดภายในร้าน อาจเปิดให้บริการในช่วงเวลาพิเศษหรือขยายเวลาให้ลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ อาจกำหนดช่วงเวลาเฉพาะสำหรับกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัว ให้สามารถเข้ามาช้อปได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น
เตรียมพร้อมสู่อนาคต
เทศกาลช้อปปิ้งช่วงปลายปีนี้จะไม่เหมือนกับที่เคยผ่านมา และอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กำหนดทิศทางของฤดูกาลต่อ ๆ ไป การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้บริโภคที่หันมาใช้ช่องทางออนไลน์และการซื้อแบบไร้สัมผัสในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว – แต่เป็นก้าวย่างของอนาคตที่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่
“มันเป็นฤดูกาลที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง และผมคิดว่าเราทุกคนจะได้เรียนรู้ร่วมกันในระหว่างที่ผ่านมันไป”
— มาร์ก ทริตตัน, CEO บริษัท Bed Bath & Beyond
ข่าวดีคือ ผู้ค้าปลีกได้พิสูจน์แล้วว่า เมื่อสถานการณ์วิกฤต พวกเขาสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือ การทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหลายปีในการวิเคราะห์หรือคิดมากเกินไป – สิ่งสำคัญคือคุณต้อง ก้าวข้ามความกลัวการเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมธุรกิจให้พร้อมรับมือกับอนาคต และคว้าโอกาสที่มาถึงให้ได้ทันเวลา
หากคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือด้านการปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ
ติดต่อเราได้เลย
บทความข้างต้นเขียนโดย LS Retail เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2020
สามารถอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษได้จาก ที่นี่